บทความ SEO แจกฟรี
ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you
Keyword หลัก : เที่ยวเชียงใหม่ , ไหว้พระเชียงใหม่
ความยาว : 850 คำ
We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO คุณภาพ
เที่ยวเชียงใหม่ อย่าลืมไปไหว้พระเสตังคมณี
ใครที่เคยมา เที่ยวเชียงใหม่ ในช่วงสงกรานต์ คงจะได้รับความสนุกสนานและเกิดความประทับใจ จากกิจกรรมในงานประเพณีนี้กันเป็นอย่างมาก การเล่นน้ำสงกรานต์ในเชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการท่องเที่ยวไทยเลยทีเดียว มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเล่นสาดน้ำและชมประเพณีวัฒนธรรมที่นี่ปีละหลายแสนคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า งานประเพณีสงกรานต์ของเชียงใหม่เริ่มกันในวันที่ 13 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 15 ซึ่งจะเป็นช่วงที่ทั่วทั้งเมืองจะมีการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานโดยเฉพาะรอบบริเวณคูเมือง แต่… จริงๆ แล้ว กิจกรรมเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ของเชียงใหม่นั้นเริ่มกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน แล้ว !
เพียงแต่ว่าในช่วงต้นๆ ของเทศกาลจะยังไม่มีการเล่นสาดน้ำกันคนจึงไม่ค่อยทราบ แต่เป็นความจริงและมีกำหนดการกิจกรรมของเทศกาลสงกรานต์นี้ว่าเริ่มต้นในวันที่ 1 เมษายน อยู่ในกำหนดการจัดงานของ เทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งกิจกรรมแรกสุดเลยก็คือ “งานประเพณีสรงน้ำพระเสตังคมณี…” ในวันที่ 1–3 เมษายน ที่วัดเชียงมั่น
การที่กิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป พระเสตังคมณี เป็นอันดับแรกในงานประเพณีที่สำคัญอย่างประเพณีสงกรานต์ย่อมหมายความว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่หากใครได้ไปกราบสักการะจะพบว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดเล็ก คือมีขนาดหน้าตักกว้างเพียง 4 นิ้ว และสูงเพียง 6 นิ้ว เท่านั้น แต่เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักขึ้นจากแก้ว มีความใสและมีรูปทรงพุทธศิลป์ที่งดงาม ตามแบบสกุลช่างละโว้ และเชื่อกันว่ามีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1300 ปี
เที่ยวเชียงใหม่ ต้องไปไหว้พระเสตังคมณี
ประวัติความเป็นมาของ พระเสตังคมณี มีปรากฏเป็นลักษณะตำนาน เกี่ยวพันกับตำนานของนครหริภุญชัย หรือ จังหวัดลำพูนในปัจจุบัน ว่ากันว่า แต่เดิมอยู่ที่เมืองละโว้ (มีตำนานเกี่ยวกับการสร้างว่าด้วยการเนรมิตของพระวิษณุกรรม แต่ไม่ขอนำมาเล่าในที่นี้) ต่อมาเมื่อพระนางจามเทวี พระราชธิดาเจ้ากรุงละโว้เสด็จมาครองเมืองหริภุญชัย จึงได้อัญเชิญเอาพระเสตังคมณี หรือ พระแก้วขาว มาด้วย เพื่อเป็นพระพุทธรูปบูชาประจำพระองค์ และพระพุทธรูปองค์นี้ก็อยู่ที่นครหริภุญชัยนานหลายร้อยปี จนถึงยุคที่พญามังรายตีได้นครหริภุญชัยในปี พ.ศ. 1824 ได้ไปพบพระเสตังคมณี ซึ่งไม่ได้รับความเสียหายจากการไฟที่ถูกจุดเผาในตอนเข้าตีเมือง จึงทรงเกิดความศรัทธาและได้อัญเชิญมาเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์สืบต่อ และได้อัญเชิญมาประดิษฐานในพระราชวังเมื่อสร้างเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 1839 พระเสตังคมณีจึงถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญของนครเชียงใหม่มาแต่นั้น
แต่อย่างไรก็ดีพระเสตังคมณีไม่ได้ประดิษฐานอยู่ในเชียงใหม่ตลอด มี 2 ครั้ง ที่มีการพลัดพรากถูกนำเอาไป ครั้งแรก คือ ในสมัยพญายอดเชียงราย (พ.ศ.2031–2038) เล่ากันว่ามีคนแอบขโมยเอาพระเสตังคมณีไป เพื่อจะเอาไปถวายกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ. 2035 ทำให้พญายอดเชียงรายถึงกับเกณฑ์พลยกทัพตามไป และสามารถอัญเชิญกลับมาได้ ส่วนครั้งที่สอง เข้าใจว่าถูกอัญเชิญไปล้านช้างโดยพระไชยเชษฐา (พ.ศ.2089–2090) ผู้เป็นกษัตริย์ 2 อาณาจักร คือทรงครองทั้งล้านนาและล้านช้าง ได้รับราชสมบัติต่อจากพระมหาเทวีจิรประภา แต่ต่อมาทรงเปลี่ยนใจ เสด็จกลับไปประทับที่ล้านช้าง จึงมีการอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญกลับไปด้วย องค์ที่สำคัญก็คือพระแก้วมรกต จึงเข้าใจว่าในตอนนั้นน่าจะมีการนำเอาพระเสตังคมณี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเช่นกันไปด้วย ในประวัติกล่าวพระเสตังคมณีได้ประดิษฐานอยู่ที่ล้านช้างนานถึง 225 จนถึงครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ยกทัพไปปราบล้านช้างได้สำเร็จ ก็มีการอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญกลับมาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ พระเสตังคมณี และได้โปรดให้อัญเชิญกลับมาประดิษฐาน ที่เชียงใหม่อีกครั้ง โดยให้อัญเชิญมาไว้ที่ วัดเชียงมั่น ซึ่งแต่เดิมเป็นที่ประทับของพญามังราย และพระเสตังคมณีจึงได้ประดิษฐานอยู่ ณ วัดเชียงมั่น นับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้
ดังนั้นหากใครที่มา เที่ยวเชียงใหม่ หรือ อยากมา ไหว้พระเชียงใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคล ก็อยากจะขอแนะนำว่า ควรได้มากราบนมัสการพระเสตังคมณี อันเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ต้นการสร้างเมืองเชียงใหม่ และมีความงดงามของพุทธศิลป์ที่ย้อนขึ้นไปได้อีกนายกว่าพันปี เป็นพระพุทธรูปสำคัญและเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่งของชาวเชียงใหม่
ดูบทความต้นฉบับ : เที่ยวเชียงใหม่ อย่าลืมไปไหว้พระเสตังคมณี
ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น