ในส่วนของงานสีที่เป็นการซ่อมแซมปรับปรุงหรือรีโนเวทบ้านหรืออาคารเก่า ก่อนที่ ผู้รับเหมา จะให้ช่างสีเริ่มงาน ควรมีการทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน ทั้งนี้เนื่องจากช่างมีหลายระดับมีทักษะความรู้และประสบการณ์ที่แตกต่างกัน หาก ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน อาจจะนำมาซึ่งผลงานที่ผิดพลาดได้ง่าย ดังนั้นย่อมเป็นการดีกว่าที่จะมีการซักซ้อมความเข้าใจ หรือ... วางลำดับขั้นตอนในการทำงานลงไปให้ชัดเจนเพื่อให้ช่างดำเนินการตาม เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ ตรวจสอบติดตามได้ง่าย ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่าหากเกิดอะไรขึ้น ผู้รับเหมา จะต้องเป็นผู้กลับมารับผิดชอบจัดการใหม่อีกรอบ เสียทั้งเงินและเวลาอีกครั้ง...
ขั้นตอนในการทาสีให้ทับสีเดิมที่ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ควรควบคุม คือ
ขั้นที่ 1 ตรวจสอบสภาพของพื้นผิว เรื่องนี้สำคัญที่สุด และ ผู้รับเหมา ควรตรวจดูด้วยตัวเองด้วยเพื่อให้ทราบอย่างแน่ชัดว่าควรดำเนินการขั้นตอนต่อไปอย่างไร
ขั้นที่ 2 ซ่อมแซมและทำความสะอาด เรื่องนี้จะดำเนินการตามสภาพของพื้นผิวที่เราได้ทำการตรวจสอบในข้อแรก ซึ่ง ผู้รับเหมาก่อสร้าง ควรเป็นคำกำหนดขั้นตอนให้กับช่างสี เพื่อให้ดำเนินการตาม ในกรณีที่สภาพพื้นผิวของสีเดิม มีสภาพดีไม่มีการหลุดร่อน โป่ง บวม หรือมีเชื้อรา ให้ทำการล้างทำความสะอาด เอาฝุ่นผงสิ่งสกปรก คราบน้ำมัน หรืออื่นๆ ที่ผิวออกไปให้หมด แล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ให้แห้งสนิท ส่วนในกรณีที่พื้นผิวมีปัญหา มีสภาพหลุดร่อน โป่งพอง หรือมีเชื้อรา จะต้องทำการขัดเอาสีเก่าออกให้หมดเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยทำความสะอาดล้างและปล่อยให้แห้งสนิท และควรมีการตรวจสอบรอยแตก และความเสียหายที่พื้นผิว และจัดการซ่อมให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงทำการล้างทำความสะอาด นี่เป็นขั้นตอนในการซ่อมแซมและทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องวางขั้นตอนรายละเอียดการทำงานตามสภาพของพื้นผิวที่เป็นจริง
ขั้นตอนที่ 3 ปล่อยผนังให้แห้ง เรื่องนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ และเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง สำคัญมาก ต้นเหตุที่ทำให้สีหลุดร่อนอย่างรวดเร็ว มีความเสียหายอายุการใช้งานสั้น ส่วนมากเกิดจากเรื่องของการที่พื้นผิวมีความชื้นสะสมไม่แห้งสนิทก่อนที่จะทาสีใหม่ จึงเป็นเรื่องที่ ผู้รับเหมา ควรมีการกำชับกับช่างว่าต้องให้พื้นผิวแห้งสนิทจริงๆ เสียก่อน และ ไม่ควรทำการทาสีในวันที่มีฝนตก เนื่องจากมีความชื้นสะสมเกิดขึ้น ควรเลือกช่วงที่อากาศแห้งๆ จะดีที่สุด
ขั้นตอนที่ 4 การทาสีรองพื้น เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ และมีผลต่ออายุการใช้งานของสีเป็นอย่างมาก ควรมีการทาสีรองพื้นทุกครั้ง เมื่อจะทาสีใหม่ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะของสีจริง หรือที่เรียกภาษาช่างว่าสีทับหน้า เว้นแต่ในกรณีที่ สภาพสีเดิมอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีความเสียหาย หากทำความสะอาดและแห้งสนิทดีแล้วสามารถทาสีใหม่ทับได้เลยโดยไม่ต้องทาสีรองพื้นก่อน แต่หากว่าเป็นกรณีสีมีปัญหา ก็ต้องทาสีรองพื้นหลังจากจัดการตามขั้นตอนที่ 2 และ 3 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในการทาจะต้องเริ่มจากการทาสีรองพื้น 1 ชั้น และทาสีจริงทับอีก 2 ชั้น เพื่อความสม่ำเสมอของสีที่เราทาลงไป
นี่เป็นขั้นตอนในการทาสีใหม่ทับพื้นผิวเดิมที่มีการทาสีมาแล้ว ซึ่ง ผู้รับเหมา ควรทำการวางระบบและขั้นตอนการทำงานให้ชัดเจนตามสภาพของพื้นผิว เพื่อให้ช่างสีทำงานตามและควรมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้งานที่มีคุณภาพดีและไม่มีปัญหาวุ่นวายตามมารบกวนในภายหลัง...
ขอบคุณบทความจาก : houzzMate.com แหล่ง หาช่าง และ ผู้รับเหมา อันดับ 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น