พริก กินเผ็ดแล้วแฮปปี้

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

อาหารรสเผ็ด เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอาหารไทย เพราะอาหารไทยหลายชนิดมีพริกเป็นส่วนประกอบ นอกจากรสเผ็ดของพริกจะช่วยชูรสของอาหารให้อร่อยขึ้นแล้วยังมีสรรพคุณอีกหลากหลายอันเป็นประโยชน์ของพริก

รสเผ็ดของพริกมาจากสารเคมีในตัวของมันคือ Capsaicin นอกจากนั้นยังมีสารอื่นๆที่ให้ความเผ็ดอีก คือ Dihydrocapsaicin ,Nordihydrocapsaicin ,Homodihydrocapsaicin ,และ Homocapsaicin ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้รู้สึกแสบร้อน ระคายเคือง และเมื่อรับประทานเข้าไปทำให้ร่างกายขับเหงื่อ และสามารถกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อย

นอกจากความเผ็ดในพริกยังมีวิตามิน C สูง มีวิตามิน A แคลเซี่ยมและธาตุเหล็กอีกด้วย ดังนั้นการทานพริกก็จะช่วยในการบำรุงเลือด เสริมสร้างกระดูก ทำให้ผิวพรรณสดใส ต่อต้านอนุมูลอิสระ และบำรุงสายตา จากงานวิจัยพบว่า พริกช่วยในการเพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย มีการขับเหงื่อออกมาทำให้ร่างกายเย็น ในเวลาเดียวกันก็ช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ลดความรู้สึกอยากรสหวาน ดังนั้นการทานพริกจึงมีประโยชน์ในด้านการควบคุมน้ำหนัก ลดคอเรสเตอรอล ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

รสเผ็ดนั้นสามารถช่วยให้ร่างกายหลั่งสาร เอ็นโดรฟิน (Endorphin)จากต่อมใต้สมอง และ ไฮโปทาลามัส ในกระดูกสันหลัง ที่ทำให้รู้สึกมีความสุข บรรเทาอาการเจ็บปวด ลดอาการไข้หวัดคัดจมูก ขับเสมหะ โดยเฉพาะผู้ป่วยในโรคภูมิแพ้ หอบหืด การทานพริกจะช่วยขยายหลอดลมได้อีกด้วย

ในปัจจุบันนอกจากการใช้พริกเป็นอาหารเพื่อเสริมรสชาติ และอยู่ในฐานะสมุนไพร อาหารเป็นยา แล้ว ยังมีการนำพริกไปทำผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทา สามารถรักษาอาการผิวหนังอักเสบ แก้ปวดเมื่อย แก้การติดเชื้อที่ผิวหนัง อย่าง เริม และงูสวัดได้อีกด้วย

นี่เป็นประโยชน์ของพริก ที่เป็นส่วนประกอบหลักอย่างหนึ่งของเมนูอาหารไทย ที่เชื่อถือกันว่า อาหารไทยรสเผ็ดของเราเป็นอาหารสุขภาพที่ได้รับการยอมรับไปแล้วทั่วโลก

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : พริก , อาหารรสเผ็ด , อาหารไทย ,ประโยชน์ของพริก

ความยาว : 355 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : พริก กินเผ็ดแล้วแฮปปี้

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 you รับเขียนบทความ seo

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

บอกความรู้สึกของคุณด้วยดอกไม้…

อะไรคือของขวัญที่คนนิยมมอบให้กันมากที่สุด ? คำตอบที่ได้จากใจของคุณอย่างน้อยคงต้องมี “ดอกไม้” ปรากฏขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย… เพราะการมอบดอกไม้ เป็นการแสดงความรู้สึกดีๆ ให้กันที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล และอาจมาจากความรู้สึกภายในของคนเรา ความรู้สึกที่ละเมียดละไม

ความหมายของดอกไม้…

ดอกกุหลาบ :
กุหลาบแดง — ดอกไม้ยอดนิยมอันดับหนึ่งตลอดกาล แทนคำว่า “ฉันรักเธอ” แสดงออกถึงความรักที่มีให้กันอย่างลึกซึ้งและจริงจัง
กุหลาบเหลือง — ดอกไม้ที่ใช้แทนการบอกว่า “ห่วงใย” ห่วงหาอาทร การให้กำลังใจและคำอวยพรขอให้มีสุขภาพดี
กุหลาบขาว — ดอกไม้ที่ให้เพื่อแสดงความรักอันบริสุทธิ์ใจ ความเมตตาและปรารถนาดี
กุหลาบชมพู — ดอกไม้สีหวาน แสดงถึงความรักที่เริ่มผลิบานที่พร้อมจะก้าวเดินไปด้วยกัน เป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความรักที่โรแมนติก

ดอกคาร์เนชั่น :
คาร์เนชั่นขาว — หมายถึงความรักที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ความอ่อนโยน น่าทะนุถนอม และคำขอบคุณที่บริสุทธิ์ใจ
คาร์เนชั่นชมพู — ดอกไม้ที่ใช้เอ่ยความหมายว่า “ฉันรักเธอนะ” เหมือนเป็นการสะกิดเบาๆ ให้เขารับรู้ว่าคุณรักเขาอยู่
คาร์เนชั่นเหลือง — เป็นดอกไม้ที่… มีความหมายพิเศษมาก นั่นคือ บอกให้ผู้รับได้รู้ว่า… คุณกำลัง “งอน” และอยากให้เขามา “ง้อ” เป็นคำเตือนที่น่ารักสุดๆ
คาร์เนชั่นแดง — ดอกไม้ที่อาจใช้ต่อเนื่องจากการได้รับดอกคาร์เนชั่นเหลือง เพราะมันหมายถึง การออดอ้อน ตามตื้อ เหมือนคำบอกว่า “โปรดเห็นใจฉันเถอะ” ใช้ในการง้อ หรือบอกว่า อยากใกล้ชิดกันมากกว่าที่เป็นอยู่

ดอกลิลลี่ :
ลิลลี่ชมพู — แทนคำว่า “เธอคือผู้เติมเต็มชีวิตของฉัน” เป็นการแสดงถึงความรักที่ลึกซึ้งที่มีให้กัน
ลิลลี่ขาว — คือการกล่าว ขอบคุณที่มีเธออยู่เคียงข้าง เธอผู้แสนดี
ลิลลี่ส้ม — ดอกไม้ที่แทนความรักอันสดใสร่าเริง เป็นการมอบให้เพื่อมิตรภาพที่สดใส

ดอกกล้วยไม้ : เป็นการแสดงออกถึงความชื่นชม การแสดงความยินดี หรือความนับถือ ที่มีให้กัน มักใช้ในโอกาสการแสดงความยินดี

ดอกทานตะวัน : เป็นดอกไม้ที่แสดงให้รู้ถึงความมุ่งมั่น ซื่อตรง และความอดทนจนประสบความสำเร็จ เป็นดอกไม้ที่ใช้ในการให้กำลังและอวยพระให้ประสบความสำเร็จ (ประมาณ… สู้ๆ)

นี่เป็นบางส่วนของความหมายที่แฝงในดอกไม้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนขี้อาย หรือคุณจะเป็นคนโรแมนติก หรือคุณอยากบอกให้ใครสักคนรับรู้ถึงความรู้สึก ลองเลือกดอกไม้สักช่อเป็นของขวัญ เพื่อบอกใครคนนั้นให้รับรู้ถึงความรู้สึกของคุณ ดอกไม้เป็นของขวัญที่น่าประทับใจตลอดมา

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : ดอกไม้ , การมอบดอกไม้ , ความหมายของดอกไม้

ความยาว : 500 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : บอกความรู้สึกของคุณด้วยดอกไม้

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 you รับเขียนบทความ seo

รักษาสุขภาพสู้อากาศหนาว

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย ตั้งแต่อาการเป็นหวัดคัดจมูก เวียนศีรษะ ไข้หวัดใหญ่ไปจนถึงโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ความอยากอาหารลดลง ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ การดูแลสุขภาพฤดูหนาวจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงให้มาก

การรักษาสุขภาพหน้าหนาว มีด้วยกันหลายวิธี การสวมใส่เครื่องนุ่งห่มให้เพียงพอ การออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นเรื่องจำเป็น ในฤดูหนาวร่างกายขับของเสียออกได้น้อย เพราะเหงื่อไม่ค่อยออก การทำงานในการขับของเสียออกจากร่างกายก็ไปตกหนักที่ ไต ที่ต้องรับบทหนัก ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ เพื่อช่วยการทำงานของไต

แพทย์แผนจีนบอกว่าควรดื่มน้ำในสามเวลา ตอนเช้าเวลา 05.00–7.00 น. เพื่อช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ช่วงที่สอง เวลา 15.00–17.00 น. ดื่มเพื่อช่วยล้างกระเพาะปัสสาวะ และอีกครั้งในช่วงก่อนนอน ทำให้นอนหลับสบาย

การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่ควรทำให้สม่ำเสมอ ยิ่งในฤดูหนาว ยิ่งควรออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นระบบเลือดให้ไหลเวียนได้สะดวก อีกทั้งยังเสริมภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่าย เวลาที่สมควรออกำลังกายก็เป็นช่วงเช้าหรือเย็น ในตอนที่มีแสงอาทิตย์อ่อนๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ และในการหอบหายใจในช่วงออกกำลังยังทำให้ขับไล่อากาศเสียออกจากปอด ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้น

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในฤดูหนาวร่างกายต้องการพลังงานไปใช้เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย และในเวลาเดียวกันก็ต้องการไขมันไปช่วยในการบำรุงผิวหนังไม่ให้แห้ง การรับประทานอาหารในฤดูหนาวจึงควรทานไขมันดี เช่น น้ำมันปลา น้ำมันงา เพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกายและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังด้วย และควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ยิ่งในเด็กยิ่งต้องเพิ่มอาหารโปรตีนมากเป็นพิเศษเพื่อความเจริญเติบโต เช่น เนื้อปลา หรือโปรตีนจากถั่ว และน้ำนม

ทางแพทย์แผนไทย อาหารในฤดูหนาวควรเป็นอาหารที่มีรสเปรี้ยวและร้อน แซมรสขม เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย อาทิ เช่น แกงส้มดอกแค ที่แนะนำให้กินกันตั้งแต่ช่วงปลายฝน-ต้นหนาว เพื่อป้องกันไข้หัวลม (หมายถึงช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง) อาหารรสเปรี้ยว เช่น มะนาว มะขาม จะช่วยขับเสมหะทำให้ชุ่มคอ อาหารรสร้อนเช่น พริก หรือขิงจะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่น และอาหารรสขมเช่น แกงขี้เหล็กยังช่วยป้องกันการเป็นไข้ได้ดีอีกด้วย

การรักษาสุขภาพหน้าหนาวสรุปรวมๆ ก็คือ การทานอาหารให้เหมาะสม ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอนั่นเอง ทำได้ดังนี้เราก็จะสามารถต่อสู้กับสภาพอากาศที่หนาวเย็นกันได้แล้วละครับ

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : สุขภาพฤดูหนาว , รักษาสุขภาพฤดูหนาว

ความยาว : 520 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : รักษาสุขภาพฤดูหนาว

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 you รับเขียนบทความ seo

กลิ่นกำหนดความรู้สึก

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

หากใครได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Perfume: The Story of a Murderer (น้ำหอมมนุษย์) หรืออ่านหนังสือเรื่อง “น้ำหอม” ที่แปลโดย “สีมน” จากนวนิยายขายดีภาษาเยอรมันเรื่อง “Das Pareum” แต่งโดย Patrick Suskind แล้วล่ะก็ คงได้แนวคิดเรื่อง ผลของอารมณ์ที่เกิดจากกลิ่น มาไม่น้อยทีเดียว แม้จะเป็นนิยายออกแนวสยองแสยงไปบ้างก็ตามที

กลิ่นมีผลกับอารมณ์ความรู้สึก ของคนเราจริงๆ และมีการใช้กลิ่นในการปรับอารมณ์ของคนเรามาตั้งแต่ยุคโบราณ อาจจะเริ่มจากการใช้กลิ่นหอมบูชาเทพเจ้า และการใช้กลิ่นในการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ อย่างที่เรียกกันว่า Aroma Therapy (การบำบัดโรคโดยใช้กลิ่น)

เนื่องจากมนุษย์เรามีประสาทสัมผัสที่สำคัญอยู่ 5 อย่าง ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ซึ่งตามแนวคิดทางศาสนา ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างนี้มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเรา ให้รู้สึก รัก เกลียด พอใจ เป็นสุข และเป็นทุกข์ได้ กลิ่น เป็นหนึ่งในนั้น จึงเชื่อได้ว่า กลิ่นมีผลต่ออารมณ์ของคนเราจริงๆ

เอาละเราลองมาดูกันสักหน่อยว่ากลิ่นของอะไรมีผลกับความรู้สึกแบบไหนบ้าง

มะนาว : กลิ่นของมะนาว ทำให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส ปลุกให้มีอารมณ์ตื่นตัวไม่ง่วงเหงาหาวนอน รวมถึงช่วยลดความอยากอาหารได้อีกด้วย

ยูคาลิปตัส : กลิ่นของยูคาลิปตัสช่วยให้รู้สึกโล่ง ปลอดโปร่งและมีสมาธิมากขึ้น ยังช่วยบรรเทาอาการเป็นหวัดคัดจมูกได้อีกด้วย

กระดังงา : คนไทยเราเปรียบสตรีผู้มีเสน่ห์ว่า “กระดังงาลนไฟ” หมายถึงหญิงสาวที่เลยวัยแรกรุ่นไปแล้วแต่ยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม กลิ่นของกระดังงานั้น ช่วยให้เกิดความมั่นใจ อบอุ่น สบายใจ จนถึงอารมณ์รัญจวนใจ

ดอกคาโมมายล์ : กลิ่นของดอกไม้นี้ทำให้รู้สึกแจ่มใส สะอาด มีสมาธิ

เปปเปอร์มินต์ : กลิ่นของเปปเปอร์มินต์ ทำให้สดชื่น มีชีวิตชีวา และปลอดโปร่ง

ส้ม : กลิ่นของส้มทำให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายความตึงเครียดของอารมณ์ เหมาะมากที่จะใช้กลิ่นส้มในยามค่ำ เพื่อผ่อนคลายความเครียดกดดันจากภาระการทำงานมาตลอดทั้งวัน

อบเชย : กลิ่นของอบเชยมีในเครื่องหอมรวมไปถึงใช้ในการประกอบอาหาร กลิ่นของอบเชยช่วยให้เกิดความรู้สึกมั่นใจ ฮึกเหิม ไม่ท้อถอย

พริกไทย : กลิ่นของพริกไทยที่เราใส่ในอาหารมีผลกระตุ้นประสาท ทำให้เกิดความคึกคัก และฮึดสู้ ลดความรู้สึกย่อท้อ

มะลิ : กลิ่นของดอกมะลิ ช่วยให้ผ่อนคลาย มองโลกในแง่ดี มีเมตตา และยังเสริมความมั่นใจ และให้ความสงบอีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของ กลิ่นที่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก ของคนเรา ที่เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ยากเย็น

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword :กลิ่นมีผลกับอารมณ์ , ผลของอารมณ์ที่เกิดจากกลิ่น , กลิ่นทำให้รู้สึก

ความยาว : 500 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : กลิ่นกำหนดความรู้สึก

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 you รับเขียนบทความ seo

ประโยชน์ของการดื่มเบียร์

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

“เบียร์” เครื่องดื่มยอดนิยมของใครหลายๆ คน แต่ก็มักถูกต่อต้านว่ามันเป็นสิ่งเสพติด เป็นเครื่องดองของเมาที่ไม่ควรแตะต้อง มิหนำยังทำให้อ้วน ! บวมฉุเป็นถังเบียร์อีกต่างหาก และยังมีอะไรต่อมิอะไรที่สามารถสรรหามาเป็นข้อเสียของเบียร์ได้ หากหาคำตอบได้ยาก ท่านชายโปรดหันไปถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากศรีภรรยาของท่าน ยามท่านกลับจากการสังสรรค์ร่วมวงดื่มเบียร์กับเพื่อนฝูงอย่างสะใจ ! รับรองว่าได้ทราบโทษภัยข้อเสียของเบียร์ชนิดปิดหูหลบแทบไม่ทัน ! ซึ่ง… หากทบทวนดูอาจจะไม่ใช่ข้อเสียหรือโทษของเบียร์ หากแต่เป็นความครื้นเครงเกินพอดีของการสังสรรค์ต่างหากที่เป็นข้อเสีย แต่… จริงๆ แล้วเบียร์มีประโยชน์ !!

เบียร์เป็นเครื่องดื่มโบราณ ผ่านยุคสมัยย้อนไปได้มากกว่า 6,000–8,000 ปี ว่ากันว่าต้นกำเนิดมาจากชาวบาบิโลเนีย แห่งอารยธรรมลุ่มน้ำยูเฟรตีส และเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในดินแดนอียิปต์โบราณ และแดนเมโสโปเตเมีย ในยุคแรกๆ ยังไม่มีการใส่ ฮอปส์ เข้าไปจึงไม่ได้มีกลิ่นรสดังในปัจจุบัน สมัยแรกๆ เป็นการหมักขึ้นจากข้าวบาร์เลย์เป็นวัตถุดิบหลัก จนมาเมื่อประมาณ 3,000 ปี ที่แล้ว (ประมาณ 1,000 ปี ก่อน ค.ศ.) จึงมีการคิดค้นเพิ่ม ฮอปส์ เข้าไปในเบียร์เพื่อเพิ่มรสปรุงกลิ่น และยังช่วยให้สามารถเก็บรักษาเบียร์ไว้ได้นานขึ้นด้วย

ประโยชน์ของเบียร์ อันนี้คือประโยชน์จริงๆ ที่สามารถกล่าวกันได้ตามงานวิจัยและการทดลองนะครับ ไม่ใช่ข้ออ้างในการดื่มเบียร์ ! (โปรดใช้อย่างระมัดระวัง)

ลดความเครียด : งานวิจัยของ มหาวิทยาลัย Montreal ชี้ว่า คนที่ดื่มเบียร์จะมีอารมณ์ที่ผ่อนคลายมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มถึง 15% ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าหากดื่มเบียร์ในปริมาณพอเหมาะจะช่วยป้องกันอาการโรคซึมเศร้าได้

แก้ไขอาการนอนไม่หลับ : นอกจากแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณไม่สูงมากนักแล้วในเบียร์ยังมี ฮอปส์ ซึ่งในดอกไม้ชนิดนี้ออกฤทธิ์ทำให้ประสาทผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับได้ง่าย

ลดความดันโลหิต : มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสามารถบ่งชี้ได้ว่า การดื่มเบียร์สามารถลดอาการโรคความดันโลหิตสูงได้

ป้องกันโรคท้องร่วง : มีการค้นพบว่าโมเลกุลของเบียร์ สามารถกำจัดเชื้อแบดทีเรียที่เป็นพิษบางชนิดในลำไส้ได้

ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง : เนื่องจากในเบียร์นั้นมีสารอาหารต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด รวมถึง Pantothenic Acid วิตามินบี 3 และไนอาซิน ซึ่งเป็นสารที่สร้างคอลลาเจน บำรุงผิวหนังและลดการสร้างเมลานินสี ทำให้ผิวผ่องใสและลดการเกิดรอยเหี่ยวย่นของร่างกายได้

ช่วยป้องกันโรคหัวใจ : มีผลการวิจัยที่ชี้ว่า ผู้ดื่มเบียร์วันละไม่เกิน 500 cc. จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ไม่ดื่ม 40–60 %

ป้องกันโรคมะเร็ง : ในเบียร์มีสารโพลีฟีนอยด์ ที่สามารถดักจับอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังสามารถยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาเซลมะเร็งในร่างกายได้อีกด้วย

ช่วยให้อายุยืน : หากมีข้อดีหมดทุกข้อขั้นต้นก็เป็นที่เชื่อได้แล้วหละครับว่าทำให้มีอายุยืน แต่ไม่เพียงเท่านั้น มีงานวิจัยที่ตรงกันของมากกว่า 50 สำนัก ที่พบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์วันละ 1- 2 แก้ว จะมีอายุยืนยาวกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม

เหล่านี้เป็นประโยชน์เบื้องต้นเล็กๆ น้อยๆ ของการดื่มเบียร์เท่านั้น แต่… ต้องขอเรียนไว้ก่อนนะครับว่า ต้องดื่มเบียร์แต่พอประมาณเท่านั้น จึงจะได้รับประโยชน์จากการดื่มเบียร์ !

ประวัติของก๋วยเตี๋ยวผัดไทย

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

“ผัดไทย” หรือเรียกให้เต็มยศก็คือ “ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย” เป็นอาหารขึ้นชื่อลือชาอีกเมนูหนึ่งของประเทศเรา และมีบ้างที่รู้สึกภาคภูมิใจว่านี่เป็นอีกหนึ่งเมนูประจำชาติ ที่สามารถส่งออกทำรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทย หนึ่งอาจเป็นด้วยมันชื่อ “ผัดไทย” ดังนั้นเมื่อทานย่อมรู้สึกถึงความเป็นไทย (??) แต่ก็ดังที่เราท่านทราบดีอยู่แล้ว อาหารประเภทเส้น ไม่ใช่อาหารเดิมแท้ของไทย ! อาหารที่ใช้น้ำมันผัดในกระทะ ก็เป็นรูปแบบการปรุงอาหารของจีน… ดังนั้นผัดไทยย่อมไม่ใช่อาหารไทยแท้ !? หรือไม่ ??

ผมขอบอกว่า “เป็นอาหารไทย” และ… เป็นอาหารไทยที่เป็นไทยมากๆ มากจนถึงขั้นระดับชาตินิยมเลยทีเดียว ! เพราะอะไรน่ะหรือครับ ก็เพราะชื่อไงครับ “ผัดไทย” ! (ฮ่าๆ)

อย่าพึ่งว่าผมตอบแบบศรีธนญชัย หรือกวนอวัยวะนะครับ แต่ชื่อนี้มีความหมายจริงๆ ต้องไปดูที่มาของคำว่า “ไทย” กันเสียก่อน จึงจะทราบถึงที่มาของอาหารจานนี้ได้… “ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย” ย่อมเกิดหลังจากประเทศของเรามีนามว่า “ไทย” แล้ว มันจึงชื่อว่า “ผัดไทย” ไม่ใช่ “ผัดสยาม” ดังนั้น… อาหารจานนี้ควรเกิดขึ้นหลังการขึ้นเป็นผู้นำประเทศของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งในยุคของผู้นำท่านนี้ได้มีมติเปลี่ยนชื่อประเทศของเราจาก “สยาม” เป็น “ไทย” เมื่อ วันที่ 24 มิถุนายน 2482

ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทย มีพันธะที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับประเทศอังกฤษ หนึ่งรายการในนั้นเป็นข้าว จำนวนถึง 1.5 ล้านตัน การต้องผลิตข้าวส่งอังกฤษในครั้งนี้ จึงเกิดเศษข้าวหักปริมาณมหาศาล ข้าวส่วนนี้นี่เองที่นำมาผลิตเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว กอปรกับ จอมพล ป.ต้องการสร้างเอกลักษณ์แห่งความเป็นชาติไทยเพื่อรวมใจคนในชาติ เส้นก๋วยเตี๋ยวในครั้งกระนั้นจึงถูกนำมาเป็นวัตถุดิบในรายการอาหารชนิดหนึ่งชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย”

และ จอมพล ป.เคยกล่าวปราศรัยปลุกใจให้คนไทยหันมาบริโภคก๋วยเตี๋ยว อีกด้วยมีความว่า

“อยากให้พี่น้องกินก๋วยเตี๋ยวให้ทั่วกัน เพราะก๋วยเตี๋ยว มีประโยชน์ต่อ ร่างกาย มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานพร้อม ทำเองได้ในประเทศไทย หาได้สะดวกและอร่อยด้วย หากพี่น้องชาวไทยกินก๋วยเตี๋ยวคนละ หนึ่งชามทุกวัน วันหนึ่งจะมีคนกินก๋วยเตี๋ยวสิบแปดล้านชาม ตกลงวันหนึ่งค่าก๋วยเตี๋ยวของชาติไทยหนึ่งวันเท่ากับเก้าสิบล้านสตางค์เท่า กับเก้าแสนบาท เป็นจำนวนเงินหมุนเวียนมากพอใช้ เงินเก้าแสนบาทนั้น ก็จะไหลไปสู่ชาวไร่ ชาวนา ชาวทะเลทั่วกันไม่ตกไปอยู่ในมือใครคนหนึ่งคนใดเพียงคนเดียว และเงินหนึ่งบาทก็มีราคาหนึ่งบาท ซื้อก๋วยเตี๋ยวได้เสมอ ไม่ใช่ซื้ออะไรก็ไม่ได้เหมือนอย่างทุกวันนี้ซึ่งเท่ากับไม่มีประโยชน์เต็ม ที่ในค่าของเงิน”

รวมถึงได้มีคำสั่งของท่านผู้นำให้กรมประชาสัมพันธ์ (ตอนนั้นชื่อว่า “กรมโฆษณาการ”) ทำตำราปรุง “ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย” ออกแจกแก่ประชาชนด้วย… ดังนั้น “ผัดไทย” จึงอาจกล่าวได้ว่ามีเจตนาให้เป็นอาหารไทยแท้ และเป็นอาหารในยุค “ชาตินิยม” อีกด้วยครับ

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : ผัดไทย , ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย , อาหารไทย

ความยาว : 560 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : ประวัติของก๋วยเตี๋ยวผัดไทย

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 you รับเขียนบทความ seo

ประโยชน์ของเนื้อไก่

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

“ใครไม่เคยกินเนื้อไก่บ้างยกมือขึ้น !?” คงหาคนยกมือแทบไม่ได้ เพราะ เนื้อไก่ เป็นอาหารที่คนชมชอบ มีแพร่หลาย และหาทานง่ายราคาไม่แพง จะเว้นเสียก็แต่คนที่มีอาการโรคเก๊าท์ ที่ไม่สามารถกินอาหารที่มีโปรตีนสูงๆ ได้เพราะมันจะไปทำให้เกิดอาการปวดตามข้อ บวม แดง ซึ่งต้องคอยระวังควบคุมการกินอาหารโปรตีนสูงทุกชนิด

แต่ไม่ว่าอย่างไร เนื้อไก่ก็เป็นอาหารยอดนิยมอีกอย่างหนึ่งในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หาง่าย รสชาติดีและมีคุณค่าทางอาหารสูง เอาไปทำอาหารได้มากมายหลากหลายเมนู เนื้อไก่นั้นอ่อนนุ่มและยุ่ยง่าย ดังนั้นเมื่อนำมาทำอาหารจะทำให้เครื่องปรุงต่างๆ แทรกซึมเข้าไปชุ่มฉ่ำกำซาบภายในเนื้อได้เป็นอย่างดี และด้วยเหตุที่มันมีกล้ามเนื้อที่สั้น จึงทำให้ย่อยง่าย เคี้ยวสะดวก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

“เนื้อไก่” เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ในเนื้อไก่จะมีโปรตีนมากถึง 23–35 % ซึ่งมากกว่า หมู แพะ และวัวเสียอีก แต่มีไขมันน้อย และมีแคลอรีต่ำกว่าในปริมาณน้ำหนักเนื้อเท่าๆ กัน (ในกรณีที่เป็นไก่บ้านไม่ใช่ไก่เนื้อที่เลี้ยงอาหารขุนให้มันอ้วน)

ในท่านที่กำลังควบคุมน้ำหนักและต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เนื้ออกไก่เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกแรกๆ เพราะในเนื้อส่วนอกนอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้วยังมีไขมันอยู่เพียงแค่ 8.2% เท่านั้น เราจะเห็นสูตรอาหารของนักเพาะกายหลายๆ สูตรที่ใช้ เนื้อไก่ ส่วนอกเป็นอาหารเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ในทางแพทย์แผนจีนเนื้อไก่เป็นยาที่ฤทธิ์ร้อนหรือเป็นหยาง มีรสหวาน เหมาะที่จะใช้บำรุงร่างกาย ช่วยให้กระดูกและเส้นเอ็นแข็งแรง ไก่ตัวผู้จะใช้บำรุงร่างกายแก่คนปกติ แต่หากเป็นผู้ป่วยเรื้อรัง คนชรา หรือสตรีพักฟื้นหลังคลอดบุตรจะใช้ไก่ตัวเมีย ซึ่งมีความเป็นหยินอยู่ด้วยในการปรุงอาหารบำรุง

ที่ประเทศฝรั่งเศสมีอาหารเมนูขึ้นชื่ออย่างหนึ่งคือ ไก่ตุ๋นไวน์แดง เป็นของดีมีระดับ แต่ราคาของเมนูจานนี้จะผันแปรไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้เป็นเพราะไก่หรอกที่ทำให้ราคามันขึ้นๆ ลงๆ จนบางทีก็ถึงขั้นแพงหูฉี่ มันเกิดจากราคาของไวน์ที่เอามาตุ๋นนั้นต่างหาก ราคาของอาหารเมนูนี้จึงผันแปรตามราคาของไวน์ที่เอามาทำนั่นเองว่าถูกแพงขนาดไหน อันนี้เรียกกินเอารสนิยมไม่ใช่รสชาติ !

แต่ไม่ว่าจะเป็น ไก่ตุ๋นไวน์แดง (Coq Au Vin อ่านว่า ค็อกโอแวง) แบบฝรั่งเศส , ข้าวหมกไก่หรือข้าวบูคอรี แบบอินเดีย-เปอร์เซีย หรือ ไก่ย่างกินกับส้มตำ ก็ล้วนแต่ให้ประโยชน์จาก เนื้อไก่ ทุกเมนูนะครับ

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถนำเอา บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : เนื้อไก่

ความยาว : 500 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : ประโยชน์ของเนื้อไก่

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 you รับเขียนบทความ seo

สีเสื้อบอกความรู้สึก

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

“เสื้อผ้าหน้าผม” เป็นเรื่องที่ผู้คนมักไม่มีใครยอมใคร เราจึงเห็นพัฒนาการของแฟชั่นก้าวไปไม่หยุดนิ่ง มีเสื้อผ้าแฟชั่นและแนวการแต่งตัวออกมาให้ปรับแต่งแปลงโฉม เสริมลุคเสริมสไตล์ เติมความมั่นใจให้กับคนเราแบบไม่หยุดยั้ง แต่คุณทราบไหม เสื้อผ้า นอกจากจะช่วยเติมบุคลิกของคุณให้ดูดีได้แล้ว มันยังสามารถบอกถึงความรู้สึกของคุณได้ด้วย !

ตื่นเช้ามาอาบเสร็จกำลังจะแต่งตัว คุณเคยสังเกตไหมว่าทำไมคุณมีปัญหากับการเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันนั้นๆ บางทีก็เป็นเพราะสถานการณ์ บางทีก็เพราะอยากดูเลิศ แต่ไม่ว่าเพราะอะไรคุณก็ต้องใช้เวลาไปไม่น้อยในการจะเลือกเสื้อสักตัวขึ้นมาใส่ บางทีมันอาจเป็นเพราะคุณกำลังอยากบอกความรู้สึกออกไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ตัวก็ได้ !?

มาลองดูกันว่า สีของเสื้อนั้นมันแอบบอกความรู้สึกของคุณให้คนอื่นได้รับรู้อย่างไร

เสื้อสีขาว : แสดงออกว่าคุณกำลังปรารถนาที่จะให้ทุกสิ่งอย่างราบรื่น อยากได้มิตรภาพที่อบอุ่นจริงใจ อย่างมีจิตใจที่ผ่องใสและมีความสงบ รวมถึงอยากให้ความสัมพันธ์กับผู้คนราบรื่นยืนยาว

เสื้อสีดำ : คุณกำลังต้องการอำนาจลึกลับให้มาช่วยขับเน้นเสน่ห์ในตัวของคุณออกมา อยากให้ตนเองดูลึกลับเพื่อที่ใครต่อใครจะได้จับจ้องและค้นหา บางทีอาจจะกำลังบอกว่าคุณกำลังจะใช้เสน่ห์มารยาดึงดูดเพศตรงข้าม

เสื้อสีน้ำเงิน : มันฟ้องว่าคุณกำลังต้องการความสนใจและการเอาใจใส่เป็นพิเศษ อยากได้คนที่จริงใจและอบอุ่นมาช่วยดูแลหัวใจ หรือกำลังต้องการความสงบเงียบเพื่อรอคนที่ใช่เข้ามาหาคุณ

เสื้อสีแดง : คุณกำลังบอกโลกให้รู้ว่าวันนี้คุณอารมณ์ดี ใครที่เข้ามาหาจะต้องมีชีวิตชีวาสดชื่น และยังบอกถึงความพร้อมที่จะทำสิ่งใดๆ ด้วยความกระตือรือร้นอย่างเต็มเปี่ยม

เสื้อสีชมพู : คุณกำลังอยากเป็นที่รักและถูกทะนุถนอม อยากให้ใครมาเติมความหวานและความโรแมนติกให้กับชีวิต และกำลังต้องการความอ่อนโยน

เสื้อสีม่วง : คุณกำลังฟ้องต่อสังคมว่าตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี มีอารมณ์อ่อนไหว และอาจจะกำลังพยายามลืมเรื่องเก่าๆ ที่มันย้อนเข้ามารุงรังในสมอง และต้องการคนปลอบโยนหรือไม่ก็ปล่อยให้คุณอยู่เงียบๆ

เสื้อที่มีลวดลายหลายสี : คุณกำลังต้องการความสนุกตื่นเต้น หรือพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งแปลกใหม่ พร้อมที่จะลองและลุยไปกับมันอย่างสนุกสนาน

นี่เป็นการแสดงออกโดยสีของเสื้อผ้าที่คุณเลือกมาสวมใส่ จะจริงหรือไม่คุณลองสังเกตดูดีๆ สีเสื้อผ้า มันบอกความรู้สึกของคุณได้

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : สีเสื้อผ้า , เลือกสีเสื้อผ้า , เลือกเสื้อผ้า

ความยาว : 500 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : สีเสื้อบอกความรู้สึก

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO

ออกกำลังสมอง ต้องทำกลับด้าน

 

ภาพจาก pixabay.com

สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์ ใครๆ ก็อยากมีสมองดี สามารถดูได้จากจำนวนโฆษณาทีวีที่เกี่ยวกับอาหารหรือเครื่องดื่ม “บำรุงสมอง” ที่มีออกมามากมายหลายยี่ห้อจนตามกินกันไม่หวาดไม่ไหว แต่… สมองก็เหมือนร่างกาย ที่เพียงแค่การได้รับอาหารดีๆ อย่างเดียวไม่เพียงพอ มันต้องมีการออกกำลังควบคู่กันไปด้วย เพื่อความฟิตปึ๋งปั๋ง ! ในท่านที่ชอบออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อและรูปร่างที่สวยงามย่อมทราบว่า ยิ่งออกกำลังกายมากกล้ามเนื้อก็ยิ่งแข็งแรงและสวยงาม แต่สมองล่ะ เราจะ ออกกำลังสมอง กันอย่างไร ?

จริงๆ การ ออกกำลังสมอง ก็คล้ายๆ กับการออกกำลังกาย นั่นคือ ฝืนมันบ้างเพื่อให้ได้ออกแรงเพิ่มขึ้น อย่างการทำ ซิทอัพ สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง กว่าจะแบบเรียบ หรือมีเป็นลอนสวยก็ต้องทนฝืนออกกำลังกันไม่น้อย การออกกำลังสมอง ก็เช่นกัน คือ ต้องฝืน !

แต่การฝืนของสมองไม่ใช่การเอาหัวเดินสลับกับเท้า หรือให้สมองยกน้ำหนักซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นการ “ทำกลับด้าน” จากปกติที่เคยทำ ลองมาดูวิธีการ ออกกำลังสมองบางอย่างกันดีว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง

เดินถอยหลัง : ปกติคนเราเดินไปข้างหน้า แต่หากต้องการพัฒนาสมอง บางเวลาเราลองหัดเดินถอยหลังแทน

เขียนหนังสือด้วยมือที่ไม่ถนัด : หากท่านถนัดขวาให้ลองเขียนด้วยมือซ้าย หากถนัดซ้ายก็หัดเขียนด้วยมือขวา หรือจะลองหัดเขียนพร้อมๆ กันสองมือเลยเลยก็ได้ ยิ่งเขียนซ้ายขวาด้วยคำหรือวาดภาพที่ต่างกันยิ่งดีใหญ่ เป็นการออกกำลังสมองทั้งสองซีกพร้อมๆ กันและทำให้การทำงานของสมองทั้งสองซีกประสานกันได้ดียิ่งขึ้น

นับเลข หรือสวดมนต์ถอยหลัง : การทำแบบนี้ต้องใช้สมาธิสูงกว่าปกติที่คุ้นเคย เป็นการฝึกทั้งสมองและสมาธิไปพร้อมๆ กัน

หากเป็นนักกีฬาให้ลองมาเล่นเกมส์ : ท่านที่ปกติออกกำลังกายให้ลองหัดเล่นเกมส์ดูบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเกมส์คอมพิวเตอร์ หรือเกมส์ปริศนาอักษรไขว้ก็ได้

สรุปก็คือ การ ออกกำลังสมอง ต้องทำในเรื่องที่ไม่คุ้นชินเป็นปกติ ทำเรื่องที่แตกต่างกลับทางจากเดิม ฝืนทำในเรื่องที่ไม่ถนัด การทำแบบนี้จะทำให้สมองได้รับการออกกำลัง มีความจำ สมาธิ และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไข บทความ seo แจกฟรี ได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : ออกกำลังสมอง , บำรุงสมอง

ความยาว : 450 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : ออกกำลังสมอง ต้องทำกลับด้าน

ขอบคุณบทความ : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO

กินปลาอาหารเพื่อคนลดน้ำหนัก

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

 

กินปลา แล้วฉลาด ข้อนี้ทราบกันดีว่าเกิดจาก กรดโอเมก้า 3 ที่มีผลต่อการพัฒนาปลายประสาทในสมอง ให้เชื่อมโยงและส่งข้อมูลได้ดีขึ้น แต่ท่านทราบไหมว่า นอกจากจะช่วยในเรื่องสมองแล้ว กินปลา ยังช่วยผู้ที่ลดน้ำหนักได้อีกด้วย !

อย่างแรกก็เป็นเพราะไขมันในเนื้อปลาเป็นไขมันประเภทไม่อิ่มตัว เหมือนกันในเนื้อสัตว์อื่นๆ เป็นไขมันที่ย่อยง่าย ร่างกายนำไปใช้ประโยคได้เร็วไม่ตกค้าง และในเวลาเดียวกันเจ้าไขมันในเนื้อปลาที่มีกรดโอเมก้า 3 ยอดนิยมด้านพัฒนาสมองเจ้าเก่านี่ก็ยังสามารถช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันประเภท ไขมันอิ่มตัว ได้อีกต่างหาก ซึ่งไขมันอิ่มตัวนี้เรารู้จักกันแพร่หลายในชื่อ “คลอเลสเตอรอล” ผู้ร้ายอันดับต้นๆ ในโรคหลอดเลือดและหัวใจเลยเชียวหละ

ดังนั้นผู้ที่มีน้ำหนักเกินนอกจากจะลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลแล้ว ในการบริโภคเนื้อสัตว์ก็ควรหันมาบริโภคปลาแทนเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ให้บ่อยเข้าไว้ เพื่อลดและป้องกันปัญหาจากไขมันชนิดอิ่มตัว

มีงานวิจัยในปี ค.ศ. 1999 จากประเทศออสเตรเลียรับรองผลว่า การบริโภคปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง อย่างปลาทูน่า และปลาแซลมอน จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลดียิ่งขึ้น และยังมีงานวิจัยอื่นๆ ชี้ว่าน้ำมันปลาสามารถบรรเทาอาการไขข้ออักเสบได้อีกด้วย

การกินปลาทะเลนอกจากจะทำให้เราได้รับ โอเมก้า 3 แล้ว ยังลดน้ำหนักและได้ไอโอดีนทะเลอีกด้วย และนอกจากจะมีในปลาทะเลแล้วปลาน้ำจืดก็มีโอเมก้า 3 ด้วยเช่นกัน อาทิ ปลาสวาย และ ปลาช่อน เป็นต้น

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy บทความ seo แจกฟรี ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : กินปลา , ลดน้ำหนัก

ความยาว : 300 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : กินปลา อาหารคนลดน้ำหนัก

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO

แตงโม ผลไม้ อาหารเสริม ความสดชื่น

ภาพจาก pixabay.com

 

 

ในฤดูร้อนอากาศนอกจากจะร้อนสมชื่อแล้ว บางทีก็แปรปรวนวิปริต บางวันช่วงกลางวันถึงบ่ายร้อนตับแลบ แต่พอตกดึกจนถึงเช้าอากาศกลับเย็นจนเหมือนหน้าหนาว ! เปลี่ยนแปรซะจนร่างกายปรับตัวตามไม่ทัน พาลจะป่วยไข้เอา ก็ต้องพยายามรักษาสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย หรือบางท่านอาจจะเลือก อาหารเสริม พิเศษบางอย่างเพื่อค้ำจุนสุขภาพ… แต่ที่อยากแนะนำในวันนี้เป็น อาหารเสริมสุขภาพ ที่มีตามธรรมชาติ นั่นก็คือ “ผลไม้”

ในฤดูร้อนแบบนี้ ผลไม้ที่เข้าท่าที่สุดอย่างหนึ่งเห็นจะไม่พ้น “แตงโม” เพราะมันเป็นผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 92% ชดเชยการขาดน้ำจากสภาพอากาศที่ร้อน และยังมี Lycopene สารป้องกันมะเร็งที่เกิดจากอนุมูลอิสระ สูงเป็นอันดับ 2 ในบรรดาผักผลไม้ (มี Lycopene น้อยกว่าเพียง มะเขือเทศเท่านั้น) และยังมี Glutathion ที่ทราบกันดีว่าสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เป็นอย่างดี

จริงๆ ก็เชื่อกันมาแต่โบราณแล้วว่าแตงโมมีฤทธิ์เย็นดับพิษร้อน แก้กระหายน้ำได้ดี ร้อนๆ มาได้กัดแตงโมแช่เย็นสักสองสามคำก็ซาบซ่าน ความหวานและชุ่มฉ่ำ ทำให้รู้สึกสดชื่น จึงเป็น อาหารเสริม ลดร้อนที่ไม่ควรมองข้ามกันนะ

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไข บทความ seo แจกฟรี ได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : อาหารเสริม , อาหารเสริมสุขภาพ

ความยาว : 250 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : แตงโม ผลไม้ อาหารเสริม ความสดชื่น

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO

น้ำผึ้ง อาหารเสริม ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

 

ภาพประกอบจาก pixabay.com

ตั้งแต่โบราณกาลนานมา คนเราชมชอบในรสชาติและมีความเชื่อว่า น้ำผึ้งเป็นของอร่อยและมีสรรพคุณบำรุงรักษาร่างกาย เป็น อาหารเสริม ที่ทุกวัฒนธรรมทั่วโลกยอมรับ

ในน้ำผึ้งมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินบี แคลเซียม เกลือแร่ กรดอะมิโน รวมถึง สารต้านอนุมูลอิสระ แบบเดียวกับที่เราพบในผักผลไม้ และชาเขียวนั่นอีกด้วย จึงทำให้น้ำผึ้งนอกจากจะมีรสชาติหวาน กินง่าย ถูกอกถูกใจคนทุกเพศทุกวัยแล้ว ยังช่วยบำรุงสุขภาพ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย บำรุงสมอง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อีกต่างหาก

แม้แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานก็สามารถรับประทานน้ำผึ้งได้ เพราะความหวานในน้ำผึ้งเป็นน้ำตาลประเภท ฟรุสโตส ที่ร่างกายคนเราสามารถดูดซึมเอาไปใช้เป็นพลังงานได้ทันที ไม่ต้องใช้อินซูลินช่วยในการนำสารให้พลังงานเข้าสู่ร่างกาย เพราะคนเป็นเบkหวานนั้นเกิดจากการที่อินซูลินในร่างกายทำงานผิดปกติ จึงอ่อนเพลียง่าย แต่ถ้ารับประทานน้ำผึ้งจะทำให้รู้สึกสดชื่น เพราะได้รับพลังงานโดยตรง และยังดีต่อระบบตับเพราะมีกรดกลูโคโลนิคที่ช่วยตับในการทำลายสารพิษตกค้างในร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สูตรการใช้น้ำผึ้งเพื่อเสริมสุขภาพร่างกายมีมากมาย ตั้งแต่ใช้ภายนอก เช่น รักษาแผลเรื้อรัง บำรุงผิวพรรณ ไปจนถึงการบำรุงอวัยวะภายใน และบำรุงสมอง จึงทำให้น้ำผึ้งเป็น อาหารเสริม ที่ควรรับประทานอย่างยิ่ง แต่ที่สำคัญคือ ต้องมั่นใจว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ เพราะหากไปเจอน้ำผึ้งปลอมเข้า แทนที่จะได้รับประโยชน์กลับกลายเป็นโทษต่อร่างกาย

ดังนั้น การใช้น้ำผึ้งเป็น อาหารเสริม สุขภาพร่างกาย สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญก็คือ มั่นใจว่าน้ำผึ้งที่เราใช้ เป็นน้ำผึ้งแท้ จึงจะดีกับร่างกายของเราตามที่มุ่งปรารถนา

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไข บทความ seo แจกฟรี นี้ได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : อาหารเสริม

ความยาว : 320 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : น้ำผึ้ง อาหารเสริม ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO

 

ครอบครัวพังเพราะปัญหาเรื่องการ หารายได้

 

“เงิน ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต !” เป็นคำพูดเท่ห์ๆ ดูดีที่คนส่วนใหญ่เคยได้ยินกัน และมีคนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่เอ่ยคำนี้ขึ้นมา บางคนว่า “ครอบครัวสิ ถึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” มันก็ดูเป็นเรื่องจริง… หากแต่ ความรู้สึกที่เห็นด้วยว่ามัน “จริง” กับสิ่งที่เกิดขึ้น “จริง” บางทีมันก็ขัดแย้งกันอย่างหนัก ! ลองนึกดูว่าหากครอบครัวใด หารายได้ ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายภายในครอบครัว อดยาก ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ คือ ควรจะมี ถามว่าครอบครัวนั้นยังสามารถรักใคร่ อยู่เป็นครอบครัวอย่างมีความสุขอยู่หรือไม่ ?
จริงอยู่ว่าในวันที่คุณกำลังอ่านเรื่องนี้ คุณอาจมีเงินเดือน เพียงพอ มีรายได้ใช้จ่ายในครอบครัวไม่ขาดมือ แต่คุณมีเงินเก็บมากน้อยแค่ไหน ? เงินเก็บนั้นมันมีปริมาณเท่าไหร่มันมากพอที่จะให้คุณอยู่ได้อย่างสบายได้นานแค่ไหนหากคุณหยุดทำงานลงตั้งแต่วันนี้ !? นี่เป็นวิธีวัดความมั่งคั่งของคุณ…

หากว่ามันมีระยะเวลาที่สั้น หรือ… คุณไม่สามารถหยุดได้เลย นั่นแปลว่าตอนนี้คุณควรเริ่มคิดที่จะ หารายได้เสริม ได้แล้ว !

อย่ารอจนมันเกิดปัญหา เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคุณจะต้องตกงานเมื่อไหร่ ? และงานที่มั่นคงดูเหมือนมันไม่เคยมีอยู่จริง !

มีครอบครัวจำนวนมากเกิดปัญหาหย่าร้างแยกทางกันเพราะสามีตกงานหรือรายได้ไม่เพียงพอ มันนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้งและเลิกรากันไปเป็นจำนวนมาก และนั่นก็อาจหมายถึง “เงิน” มีความสำคัญมากที่จะทำให้ “ครอบครัว” ของคุณมีความสุข
ดังนั้นเลิกหลอกตัวเองว่า เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แล้วมองหาลู่ทาง ที่จะทำธุรกิจของตัวเองเพื่อ หารายได้เสริม เพิ่มจากงานประจำ เริ่มจากอะไรก็ได้ที่คุณชอบ อาจจะเป็นงานอดิเรก ที่คุณยอมจ่ายเงินเพื่อมัน ซึ่งนั่นแปลว่าคนอื่นๆ ก็มีโอกาสที่จะยอมเสียเงินเพื่อเรื่องนี้ด้วย นี่อาจเป็นช่องทางหารายได้ที่คุณได้ทั้งเงินและความสุข

สิ่งที่สำคัญก็คือ อย่าได้ชะล่าใจในความสุขสบายในปัจจุบัน มองไปในอนาคต วางแผนการรับมือ หารายได้ เพิ่มพิเศษให้กับตนเองและครอบครัวเอาไว้ แล้วมันจะทำให้คุณและครอบครัวรู้สึกอุ่นใจ และนั่นแหละคือความสุขที่แท้จริง !

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : หารายได้ , หารายได้เสริม

ความยาว : 440 คำ

ดูบทความต้นฉบับ : ครอบครัวพังเพราะปัญหาเรื่องการ หารายได้

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO

Scooter ไฟฟ้า ความสะดวกและความลงตัวของการเดินทางในเมือง

 

Scooter ไฟฟ้า ความสะดวกและความลงตัวของการเดินทางในเมือง

คนที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ มักหลีกหนีไม้พ้นจากปัญหาเรื่องการเดินทางสัญจร เนื่องจากปัญหาการจราจรในเมืองกับคำว่าการ จลาจล มันดูไม่ได้ห่างอะไรกันมากสักเท่าไหร่ ! ซึ่งเมืองหลวงอย่าง กทม. ต้องขอบอกตรงๆ ว่าถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากออกไปไหนในชั่วโมงเร่งด่วน เช้า หรือ เย็น เพราะไม่อยากไปเสียเวลาอยู่บนท้องถนน… จริงอยู่ว่า ใน กทม. มีการคมนาคม และระบบขนส่งสาธารณะมากมายหลายอย่าง แต่… มันก็ใช่ว่าจะสะดวกไปหมด แท็กซี่… เราต้องเรียกกี่คันเขาถึงจะยอดรับพาเราไปส่ง ? (ไม่นับเรื่องค่าโดยสารที่ค่อนข้างแพง) รถเมล์… คนแน่นมาก แถมจอดเลยป้ายบ่อย ขึ้นลงบางทีก็หวาดเสียว รถไฟฟ้า… ดูเป็นทางเลือกที่ดี แต่… ตอนนี้สถานีก็ใช่ว่าจะครอบคลุมทุกพื้นที่ กว่าจะเดินไปถึงสถานีเล่นเอาเหนื่อย ! บางที… Scooter ไฟฟ้า อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หากเราอยู่ในเมืองหลวง

ทั้งนี้เนื่องจากมันมีขนาดเล็ก สามารถพาเราเดินทางลัดเลาะไปได้ตามทางเดินในเมือง และบางแบบก็มีขนาดเล็กพกพาสะดวก (เช่น Scooter ไฟฟ้า ล้อเดียว) ที่มีขนาดพอๆ กับกระเป๋าใบหนึ่งเท่านั้น เราสามารถขี่มันไปยังสถานีรถไฟฟ้า ในกรณีจะเดินทางไปทำงานในต่างพื้นที่ออกไปก็สะดวก และเราก็สามารถพกมันติดตัวไปบนรถกับเราได้อย่างไม่เกะกะอะไร พอถึงสถานีปลายทาง เราก็ใช้มันเดินทางต่อไปได้อย่างสะดวก ไม่ต้องเหนื่อยแรงเดิน

Scooter ไฟฟ้า มีหลายแบบหลายราคาให้เราเลือกใช้ แบบล้อเดียวดูจะน่าสนใจมากสำหรับการใช้งานในเมือง เพราะมันใช่ร่วมกับบริการขนส่งมวลชนประเภทอื่นๆ ได้อย่างสะดวก และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ เรื่องพลังงานที่มันใช้ เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้าที่หาง่าย ทำให้เราไม่ต้องกังวลในเรื่องการหาที่เติมพลังงาน และยังมีราคาถูกมากอีกด้วย นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทางของคนในเมืองใหญ่

 

บทความ SEO แจกฟรี

ท่านสามารถ Copy ไปใช้งานและปรับปรุงแก้ไขได้โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ We Write 4 you

Keyword : Scooter ไฟฟ้า , Scooter ไฟฟ้า ล้อเดียว

ความยาว : 380 คำ

We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO คุณภาพ

 

ดูบทความต้นฉบับ : Scooter ไฟฟ้า ความสะดวกและความลงตัวของการเดินทางในเมือง

ขอบคุณบทความจาก : We Write 4 You รับเขียนบทความ SEO